หินตาเสือ” (Tiger’s Eye) สร้อยข้อมือเครื่องประดับ
ทำความรู้จักอัญมณี: พลอยตาเสือ “พลอยตาเสือ” (Tiger’s Eye) หรือที่รู้จักกันในอีกนามหนึ่งว่า “คดไม้สัก” จัดเป็นอัญมณีในตระกูลควอตซ์เช่นเดียวกับแอเมทิสต์และซิทรินซึ่งมีความแข็งระดับ 7 ตามโมห์สเกล จะแตกต่างกันบ้างก็ตรงที่พลอยตาเสือเป็นอัญมณีเนื้อแน่นและทึบแสง มีสีเหลืองอมน้ำตาลไปจนถึงน้ำตาลเข้ม มีมลทินเส้นไหมที่มีลักษณะเป็นริ้วเรียงตัวอัดกันจนแน่นในทิศทางเดียวกันจนเกิดเป็นปรากฎการณ์ที่ให้เหลือบวาวคล้ายกับดวงตาของสัตว์เจ้าป่าจนเป็นที่มาของชื่อพลอยชนิดนี้ และด้วยลักษณะพิเศษเฉพาะตัวของอัญมณีชนิดนี้ พลอยตาเสือจึงมักถูกเจียระไนแบบหลังเบี้ย หรือขัดเกลาเป็นลูกปัด เพื่อให้สามารถอวดลวดลายได้อย่างเด่นชัด สำหรับแหล่งที่มีการขุดพบพลอยตาเสือ ได้แก่ แอฟริกาใต้ บราซิล อินเดีย ไทย เมียนมา ออสเตรเลีย เป็นต้น อัญมณีพลอยตาเสือกับความเชื่อ พลอยตาเสือ เป็นอัญมณีซึ่งเป็นที่รู้จัก ได้รับความนิยม และมีความเกี่ยวพันกับวัฒนธรรมความเชื่อต่างๆ ของมนุษย์มาอย่างยาวนาน ในอดีตผู้คนได้นำเอาอัญมณีชนิดนี้มาทำเป็นเครื่องรางด้วยเชื่อกันว่ามันมีพลังในการปกป้องคุ้มครอง สามารถช่วยให้ผู้เป็นเจ้าของแคล้วคลาดจากอันตราย คำสาป และสิ่งชั่วร้ายต่างๆ ได้ ทั้งนี้ มีตำนานเล่าขานว่าพระนางคลีโอพัตรา ราชินีผู้เลอโฉมและฉลาดเฉลียวแห่งอียิปต์มักจะมอบพลอยตาเสือให้แก่เหล่าทหารกล้าเพื่อเป็นการสร้างขวัญกำลังใจ สร้างความฮึกเหิม และช่วยป้องกันอันตรายเมื่อต้องออกสู่สมรภูมิรบ และด้วยรูปลักษณ์อันน่าเกรงขาม มันถึงถูกยกให้เป็นอัญมณีแห่งความกล้าหาญ และด้วยเสือมีความสามารถในการมองเห็นสิ่งต่างๆ ในยามค่ำคืนได้เป็นอย่างดี มนุษย์จึงมีความเชื่อว่าพลอยตาเสือเปรียบเหมือนดวงตาที่สามซึ่งมีพลังแห่งการหยั่งรู้ สามารถช่วยให้ผู้เป็นเจ้าของสามารถมองทะลุเห็นถึงสิ่งที่ถูกปิดซ่อนไว้ได้อย่างชัดเจน นอกจากนี้ ยังมีความเชื่อว่าพลอยตาเสือสามารถบำบัดรักษาอาการเจ็บป่วยต่างๆ อาทิ ช่วยบรรเทาอาการปวดศีรษะ ปวดท้อง บรรเทาความเครียด รวมไปถึงโรคที่เกี่ยวความดันโลหิต และด้วยความที่อัญมณีชนิดนี้มีสีน้ำตาลทองจึงมีผู้คนจำนวนมากเชื่อว่ามันเป็นอัญมณีที่จะช่วยบันดาลเงินทอง โชคลาภ และความเจริญรุ่งเรืองมาสู่ผู้เป็นเจ้าของได้อีกด้วย