bitcoin ขลุ่ย ขลุ่ยเพียงออ พลาสติกสีดำ สีขาว คละสี 1 เลา ใช่เลย
ชื่อสินค้า : ขลุ่ย ขลุ่ยเพียงออ พลาสติกสีดำ 1 เลา
ขนาด : กว้าง 2 ซม. ยาว 44 ซม.
วัสดุ : ผลิตขึ้นจากพีวีซี ขึ้นรูปเป็นขลุ่ย เจาะรูเข้ากับลิ้นไม้ เพื่อทำเป็นเครื่องเป่าประกอบให้มีเสียงผ่านเลียนเสียงนก และน้ำหนักเบา เสียงทุ้ม นุ่ม ไพเราะ
การใช้งาน : ขลุ่ยเพียงออไทย เป็นเครื่องดนตรีประเภทเป่า เครื่องดนตรีพื้นบ้านไทยที่มีมาตั้งแต่สมัยโบราณกาล ส่วนใหญ่ใช้เป่าเล่นเป็นเพลงพื้นบ้าน เป่าประกอบงานมงคล งานดนตรี งานมโหรสพ งานเทศกาลของไทยเกือบทุกงานก็ว่าได้ เหมาะสำหรับนักเรียน เด็กเล็กหรือบุคคลที่ต้องการฝึกฝนเป่าขลุ่ยเริ่มต้นจากตรงนี้แล้วค่อยไปเรียนรู้จากขลุ่ยหรือดนตรีชนิดอื่นที่ยากกว่านะครับ
การดูแลรักษา : ไม่แนะนำให้วางในที่ชื้นจะทำให้เกิดเชื้อรา หล่นกระแทรก สามารถแตกร้าวได้
การทำความสะอาด : ใช้ผ้าแห้งเช็ดฝุ่นได้ตามปกติ
การคืนสินค้า : คืนสินค้าได้ในกรณีที่ได้รับสินค้าผิดจากที่สั่ง หรือสินค้าได้รับความเสียหายจากการขนส่ง สงวนสิทธิ์ในการคืนสินค้าสำหรับลูกค้าที่ทำการถ่ายภาพวีดีโอตั้งแต่ก่อนเปิดกล่องสินค้าจนถึงพบเจอสินค้าพกพร่องหรือเสียหายหรือผิดสีผิดไซด์จากที่สั่ง ขอคืนสินค้าได้ภายใน 7 วันหลังจากรับสินค้าแล้ว
หมายเหตุ : มีหลายประเภท ขลุ่ยเพียงออของเราเป็นแค่ขลุ่ยที่มีคีย์มาตรฐานสามารถเป๋าเป็นเพลง ได้จริง แต่ถ้าลูกค้าต้องการขลุ่ยหรือเครื่องดนตรีประเภทอื่นลองกดดูสินค้าภายในร้านได้นะครับ ทางร้านได้หาข้อมูลประกอบของขลุ่ยจากหลายๆ ที่ พอจะแบ่งเป็นประเภทได้ ดังนี้
1.ขลุ่ยหลิบหรือขลุ่ยหลีก เป็นขลุ่ยที่มีขนาดเล็กที่สุดในบรรดาขลุ่ยไทยมีความยาวประมาณ 25 เซ็นติเมตร มีเสียงสูงกว่าขลุ่ยเพียงออเป็นคู่สี่คือปิดหมดทุกนิ้วเป่าเป็นเสียงฟา นิยมใช้เป่าในวงมโหรีเครื่องคู่ เครื่องใหญ่และวงเครื่องสายคู่ โดยเป็นเครื่องนำในวงเช่นเดียวกับระนาด หรือซอด้วงนอกจากนี้ยังใช้ในวงเครื่องสายปี่ชวาโดยบรรเลงเป็นพวกหลังเช่นเดียวกับซออู้
2.ขลุ่ยเพียงออ เป็นขลุ่ยที่นิยมใช้เป่ามากที่สุด มีความยาวประมาณ 45 เซนติเมตร กว้างประมาณ 2.5 เซนติเมตร มีระดับเสียงอยู่ในช่วงปานกลาง เมื่อปิดหมดทุกรูจะเป่าเป็นเสียง โดคนทั่วไปนิยมเป่าเล่น ใช้ในวงมโหรีหรือวงเครื่องสายทั่วๆไปโดยเป็นเครื่องตามหรืออาจใช้ในวงเครื่องสายปี่ชวาก็ได้
3.ขลุ่ยอู้ เป็นขลุ่ยที่มีขนาดใหญ่มีความยาวประมาณ 60 เซนติเมตร กว้างประมาณ 4 เซนติเมตร เสียงต่ำกว่าขลุ่ยเพียงออสามเสียงคือปิดหมดทุกรูเป็นเสียงซอล นิยมใช้ในเครื่องปี่พาทย์ดึกดำบรรพ์ซึ่งเป็นดนตรีที่มีระดับเสียงต่ำแต่ในปัจจุบันไม่ค่อยได้ใช้เนื่องจากหาคนที่มีความชำนาญในการเป่าได้ยาก
4.ขลุ่ยเคียงออหรือขลุ่ยกรวด เป็นขลุ่ยที่มีขนาดใหญ่กว่าขลุ่ยหลิบแต่เล็กกว่าขลุ่ยเพียงออ มีความยาวประมาณ 40 เซนติเมตร กว้างประมาณ 2.2 เซนติเมตร ระดับเสียงสูงกว่าขลุ่ยเพียงออหนึ่งเสียงแต่ในปัจจุบันไม่ค่อยนิยม
5.ขลุ่ยรองออ เป็นขลุ่ยที่มีขนาดใหญ่กว่าขลุ่ยเพียงออและมีระดับเสียงต่ำกว่าหนึ่งเสียงอาจจะใช้ในวงมดหรีแทนขลุ่ยเพียงออในกรณีที่เต้องการเสียงต่ำ
6.ขลุ่ยออร์แกน เกิดขึ้นเนื่องจากในระยะหลังวงเครื่องสายได้นำเอาเครื่องดนตรีตะวันตกเข้ามาร่วมเล่นด้วยซึ่งเรียกว่าวงเครื่องสายผสม เช่น เล่นผสมกับเปียโนหรือออร์แกนเป็นต้น
7.ขลุ่ยนก ขลุ่ยชนิดนี้ใช้เป่าเป็นเพลงไม่ได้เพราะมีเสียงไม่ครบเสียงดนตรี จึงใช้เป่าเป็นเสียงนกประกอบเพลงที่มีเสียงนก เช่นเพลงตับนก แม่ศรีทรงเครื่อง เป็นต้น ขลุ่ยนกมี 3 ชนิดได้แก่
7.1 ขลุ่ยนกกางเขนไม่มีรูนับเสียงรูปร่างลักษณะเป้นกระบอกไม้รวก ยาวประมาณ 10 เซนติเมตร กว้างประมาณ 3 เซนติเมตร และมีหลอดไม้ซางกลมๆ ขนาดพอๆ กับหลอดกาแฟเป็นที่เป่าเสียบติดทะลุด้านข้างด้านหนึ่งของกระบอกเสียงเวลาเป่าต้องใส่น้ำลงในกระบอกให้ปลายหลอดส่วนล่างอยู่ในน้ำจึงจะเกิดเสียง
7.2 ขลุ่ยนกโพระดก หรือ ขลุ่ยโฮกป๊กไม่มีรูนับเสียงเช่นเดียวกับขลุ่ยนกกางเขนรูปร่างลักษณะเป็นกระบอกไม้รวกยาวประมาณ 18 เซนติเมตร กว้างประมาณ 5 เซนติเมตรเวลาเป่าต้องใช้ฝ่ามืออีกข้างหนึ่งอุดปลายส่วนล่างไว้จึงจะเป่าเป็นเสียง “โฮกป๊ก”
7.3 ขลุ่ยนกกาเหว่ามีลักษณะเหมือนกับขลุ่ยเพียงออทุกประการ ถ้านำมาตัดเป็น 2 ท่อนให้เหลือรูนับไว้ 4 รูบน ก็จะได้ขลุ่ยนกกาเหว่า เวลาเป่าจะเป็นเสียง “กาเหว่า”ขั้นแรกเอานิ้วมือปิดรูนับทั้ง 4 รู และปิดนิ้วหัวแม่มือที่อยู่ด้านล่างแล้วเป่าจะได้เสียง “กา” และหากเปิดนิ้วชี้บน นิ้วกลางบน นิ้วนางบนและนิ้วหัวแม่มือด้านล่าง หร้อมกับเป่าก็จะได้เสียง “เหว่า” เป็น “กาเหว่า”
8. ขลุ่ยพล เป็นขลุ่ยที่ไม่สามารถจัดเป็นขลุ่ยชนิดใดได้ มีราคาถูก ใช้เป่าเล่นได้ แต่ระดับเสียงไม่แน่นอนและใช้ผสมวงไม่ได้
โฆษณา